ดอกไม้นอกจากสวยงามแล้ว ยังถูกนำมาใช้เป็นสำนวนเปรียบเปรยอีกด้วย ในบทความนี้นำเสนอ สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับดอกไม้และต้นไม้ (Idioms about Plants & Flowers) พร้อมคำแปลและตัวอย่างประโยค ลองนำไปใช้สือความหมายเป็นคำคมแคปชั่นเท่ๆ กันนะ
สำนวนดอกไม้ ภาษาอังกฤษ
1. A flavor of the week = ดอกไม้ริมทาง คบกันสั้นๆ แบบไม่จริงจัง
- I’m not your flavor of the week. ฉันไม่ใช่ดอกไม้ริมทางของเธอนะ !
- Do not be his flavor of the week. อย่าเป็นแค่ดอกไม้ริมทางสำหรับเขา
2. As fresh as a daisy = รู้สึกสดชื่น มีพลัง มีความร่าเริงสดใส ไร้เดียงสา เหมือนดอกเดซี่
- After a good night’s sleep I’ll be as fresh as a daisy. หลังจากได้นอนหลับสนิท ฉันรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
- You make me happy as fresh as a daisy. เธอทำให้ฉันมีความสุข รู้สึกสดใสเหมือนดอกเดซี่
3. No bed of roses = การได้มาด้วยความยากลำบาก เรื่องที่ทำใจได้ยาก หรือลำบากมาก ๆ และไม่ง่าย ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
- It’s been no bed of roses. กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย (หรือ ผ่านมาด้วยความยากลำบาก)
- It’s no bed of roses teaching in a secondary school. การสอนในโรงเรียนมัธยมเนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ
- Being a teenager is no bed of roses, you know?! การเป็นวัยรุ่นมันก็ไม่ง่ายนะรู้มั้ย!
4. Tall poppy = ดอกไม้ที่สูงเด่น ใช้เรียกคนที่สมบูรณ์แบบ ผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น มีครบทุกอย่างในชีวิต ทั้งรูปร่างหน้าตาดี ฐานะดี ความสามารถก็เป็นเลิศ
- She is a tall poppy. เธอโดดเด่นกว่าคนอื่น
- She may be a tall poppy, but she never flaunts her wealth or treats others with disrespect. เธออาจจะเป็นคนเด่น แต่เธอไม่เคยอวดรวยหรือปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความไม่ให้เกียรติ
5. Flowery speech = คนที่ใช้คำพูดสวยหรู แต่หาเนื้อหาสาระไม่ได้ คำพูดหรืองานเขียนที่มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พูดเยิ่นเย้อโดยไม่จำเป็น พูดอ้อมโลกไม่เข้าประเด็นสักที
- He spoke for perhaps 10 minutes but it’s a very flowery speech. เขาพูดมาประมาณ 10 นาทีได้แล้ว แต่ฟังดูมีแต่น้ำไม่มีเนื้อเอาซะเลย
- He is famous for flowery speech. เขาโด่งดังเรื่องใช้คำพูดสวยหรูแต่หาเนื้อหาสาระไม่ได้
6. A Late bloomer = ดอกไม้ที่บานช้า หมายถึง คนที่ประสบความสำเร็จหรือได้รับความสนใจช้ากว่าคนอื่น คนที่ทักษะหรือความสามารถพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ หรือใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะค้นพบศักยภาพที่ดีของตัวเอง
- He is not playing that well in his teens’, maybe he is a late bloomer. เขาเล่นไม่ดีเลยตอนเป็นวัยรุ่น บางที (เมื่ออายุมากขึ้น) เขาอาจจะเก่งขึ้นในตอนหลังก็ได้นะ
- A late bloomer, she wrote her first novel when she was almost 50. คนที่สำเร็จช้า เธอเขียนนวนิยายเรื่องแรกสำเร็จเมื่ออายุเกือบ 50 ปี
7. There is no rose without a thorn = ไม่มีกุหลาบไหนไม่มีหนาม หมายถึงว่า ไม่มีความสำเร็จใดที่ปราศจากอุปสรรค ทุกสิ่งย่อมมีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี เหมือนเช่นกุหลาบที่มีความสวยงามแต่ก็มีหนามที่แหลมคม นั่นเอง
- There is no rose without a thorn between us. เรื่องระหว่างสองเรา มันมีทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป
8. Stop and smell the roses = หยุดพักบ้างอะไรบ้าง มักใช้บอกกับคนที่ทำงานหนักยุ่งอยู่ตลอดเวลาหรือเคร่งเครียดกับงานมากเกินไป บอกว่า ให้พักได้แล้ว ออกไปชมนกชมไม้ ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างนะ
- You do need to stop and smell the roses. เธอต้องพักบ้างออกไปชมนกชมไม้บ้างนะ
- You can’t keep working these 80 hour workweeks, John! You have to stop and smell the roses. คุณทำงาน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ จอห์น! คุณต้องพักบ้างอะไรบ้างนะ
9. Pushing up daisies (= to be dead) = เสียชีวิต ร่างกายกลายเป็นปุ๋ยให้ดอกเดซี่ได้เติบโต สำนวนนี้นิยมใช้กับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เรื่องในอนาคตแบบขำๆ
- If you leave me, you’ll be pushing up the daisies. ถ้าเธอทิ้งฉัน เธอตายแน่ !
- I’ll be pushing up daisies before this problem is solved. ก่อนปัญหาจะถูกแก้ไขฉันคงได้ตายก่อนแน่เลย!
.
10. Rose-colored glasses = แว่นตาสีดอกกุหลาบ หมายถึง การมองโลกในแง่ดี โลกสวย มองโลกเป็นสีชมพู (สีดอกกุหลาบ)
- He looks at the world through rose-colored glasses. เขาเป็นคนโลกสวย (มองโลกในแง่บวก)
- They always take a rose-colored view of the problem. พวกเขามักจะมองปัญหาในแง่ดีเสมอ
11. Come up roses / Come up smelling of roses = กำลังจะดีขึ้นหรือเป็นไปได้ด้วยดี
- Everything’s coming up rose. ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น (ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย)
- Don’t expect everything to come up rose. อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีไปตลอด
- Now that he finally has a job, everything’s coming up roses for him. ตอนนี้เขาได้งานทำแล้ว ชีวิตเขากำลังจะไปได้สวย
12. Shrinking Violet = คนขี้อาย คนที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจ
- I felt so out of place and became a shrinking violet at the party. ฉันมักรู้สึกผิดที่ผิดทางเลยกลายเป็นพวกขี้อายในงานปาร์ตี้นะ
- He’s not a shrinking violet, that’s for sure. เขาไม่ใช่คนขี้อายอย่างแน่นอน
13. Flower of youth = ช่วงชีวิตวัยเยาว์ วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว
- He died in the very flower of his youth. เขาเสียชีวิตตั้งแต่ในวัยเยาว์
- He wrote his best works while in the flower of his youth. เขาเขียนผลงานที่ดีที่สุดของเขาในขณะที่อยู่ในวัยเยาว์
14. Flower of the flock = คนหรือสิ่งที่ดีที่สุดในกลุ่ม
- Your bag is just the flower of the flock. there is no better item at the shop. กระเป๋าของคุณเลิศที่สุดแล้ว ไม่มีสินค้าตัวไหนในร้านดีกว่านี้แล้ว
15. April showers bring May flowers =ฝนเดือนเมษานำมาซึ่งดอกไม้เดือนพฤษภา เปรียบเปรยแม้ว่าเดือนเมษายนฝนตกหนัก สร้างความลำบาก แต่เดือนพฤษภาคมดอกไม้ก็จะได้เจริญเติบโตเบ่งบาน นั่นคือ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เมื่ออดทนผ่านช่วงเวลาแย่ๆ ไปได้จะพบกับช่วงเวลาดีๆ เสมอ
- Sweet April showers, do spring May flowers สายฝนเดือนเมษา สร้างทุ่งดอกไม้เดือนพฤษภา.
16. Out of the woods = การรอดพ้นอันตราย ผ่านพ้นวิกฤติ ผ่านพ้นอุปสรรคหรือผ่านความยากลำบากได้ เปรียบเสมือนออกมาจากป่าได้สักที
- The company is not out of the woods. บริษัทยังไม่ผ่านพ้นวิกฤติ
- Joe was sick two weeks ago, but now it looks like he is out of the woods. โจป่วยเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะรอดพ้นขีดอันตรายแล้ว
17. To bark up the wrong tree = การคิดผิด ทำผิดวิธี เข้าใจผิด หรือผิดไปจากหลักการและเหตุผลที่ควรจะเป็น
- She thinks it’ll solve the problem, but I think she’s barking up the wrong tree. เธอคิดว่ามันจะช่วยแก้ปัญหา แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะคิดผิด
- You’re barking up the wrong tree if you think Sam can help you. คุณกำลังคิดผิดแล้ว ถ้าคุณคิดว่าแซมสามารถช่วยคุณได้
18. Can’t see the forest for the trees หมายถึง การไม่เข้าใจสถานการณ์หรือปัญหาโดยรวมเพราะมัวแต่จดจ่อที่จุดเล็กๆ
- I don’t think we can see the forest for the trees at this stage. ฉันไม่คิดว่า เรามองภาพรวมทั้งหมดออก ในระยะนี้ (ขั้นตอนนี้)
- He can’t see the forest for the trees. เขาไม่เข้าใจปัญหาโดยรวมเพราะมัวแต่โฟกัสกับเรื่องเล็กๆ
19. To have green fingers/a green thumb = มีทักษะทำสวน รู้เรื่องต้นไม้ ปลูกอะไรก็ขึ้นงอกงามดี
- He had green fingers, my grandfather. He could grow anything. คุณปู่ของฉัน เขามีทักษะงานสวน เขาสามารถปลูกได้ทุกอย่าง
20. To let the grass grow under your feet = ปล่อยให้หญ้างอกออกจากใต้เท้า หมายถึง คนที่ไม่ทำงานทำการอะไร มัวแต่นิ่งเฉย หรือมัวแต่เกียจคร้าน ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
- I used to let the grass grow under my feet, and I missed out on a lot of opportunities. ฉันเคยปล่อยให้หญ้าขึ้นใต้เท้า และฉันก็พลาดโอกาสมากมาย
- Don’t let the grass grow under your feet, kid. Get to work! อย่าเอาแต่ขี้เกียจนะเด็กๆ ไปทำงานซะ!
เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับวลีและสำนวนดอกไม้ ต้นไม้ ภาษาอังกฤษ สามารถนำไปเป็นแคปชั่นคำคมหรือประโยคเด็ดๆ สื่อความหมายเท่ๆ ได้อีกด้วย
แนะนำ : แคปชั่นดอกไม้ ภาษาอังกฤษ คำคมดอกไม้โดนใจ
Comments